ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันอังคาร (14 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,364.83 จุด ลดลง 151.91 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,735.48 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,828.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.12 จุด หรือ +0.18%
คณะกรรมการเฟดได้เริ่มการประชุมนโยบายการเงินวันแรกเมื่อวานนี้ และจะแถลงผลการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักซึ่งรวมถึงนายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ และนายมิเชล เฟโรลี นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ต่างก็คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ และจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 2.58% โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 4.23% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.4% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 3.14%
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคร่วงลง 1.29% โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ดิ่งลง 3.12% หุ้นโคคา-โคลา ร่วงลง 2.74% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค ร่วงลง 2.84%
หุ้นกลุ่มสายการบินและธุรกิจเรือสำราญร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 2.58% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 2.78% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 3.84% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ร่วงลง 4.38%
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.62% และ 0.07% ตามลำดับ โดยหุ้นแอปเปิล บวก 0.67% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 0.92% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.26% หุ้นเชฟรอน บวก 0.11%
หุ้นเฟดเอ็กซ์ ทะยานขึ้น 14.38% หลังบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลกว่า 50% ขณะที่หุ้นออราเคิล คอร์ป พุ่งขึ้น 10.50% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการรายไตรมาส เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์คลาวด์มีแนวโน้มแข็งแกร่ง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.