ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (15 มิ.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 6 วันติดต่อกัน ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจับตาการดำเนินนโยบายการเงินจากธนาคารกลางรายใหญ่หลายแห่งในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 413.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +1.42%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,030.13 จุด เพิ่มขึ้น 80.29 จุด หรือ +1.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,485.29 จุด เพิ่มขึ้น 180.90 จุด หรือ +1.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.41 จุด เพิ่มขึ้น 85.95 จุด หรือ +1.20%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางแห่งอื่น ๆ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
นักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปจับตาการลงมตินโยบายการเงินของเฟดหลังปิดตลาดในวันพุธ โดยเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% หลังสหรัฐเปิดเผยในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างมาก
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดประชุมฉุกเฉินในวันพุธ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมากพุ่งขึ้นในยูโรโซน
ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ได้ประกาศแผนการที่จะสร้างเครื่องมือใหม่เพื่อป้องกันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก รวมทั้งคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินครั้งใหม่
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ (16 มิ.ย.) ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ นำตลาดพุ่งขึ้น 3.4% ขณะที่หุ้นเกือบทุกกลุ่ม และตลาดหุ้นยุโรปต่าง ๆ ปิดในแดนบวก