ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และการเตือนผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.98 จุด ร่วงลง 228.43 จุด หรือ -3.14%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 6-3 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และเตือนว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลงในไตรมาส 2/2565
ตลาดถูกกดดันอยู่แล้วก่อนหน้านี้จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537
หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ในกลุ่มน้ำมันดิ่งลงมากกว่า 5.1% และถ่วงตลาดลงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 4.2%
ส่วนหุ้นส่งออกชั้นนำ อาทิ ดิอาจีโอ และบริติช อเมริกัน โทแบคโค ร่วงลง 2.2% และ 3.5% ตามลำดับ หลังจากที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นรับข่าว BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 3.8% และหุ้นกลุ่มสร้างบ้าน อาทิ เพอร์ซิมมอน และอินเทอร์มีเดียต แคปิตอล ร่วง 12.0% และ 7.6% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้รับเงินปันผล) ในการซื้อขายหุ้นดังกล่าว
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีก ร่วงลง 3.9% หลังหุ้นเอซอส (ASOS) และหุ้นบูฮู (Boohoo) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ ร่วงลง 32.5% และ 11.3% ตามลำดับ หลังเตือนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค