ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ในแดนบวกจากแรงซื้อเก็งกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แม้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,362.24 จุด เพิ่มขึ้น 190.99 จุด หรือ +0.73%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,583.03 จุด เพิ่มขึ้น 309.16 จุด หรือ +1.45% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,334.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.52 จุด หรือ +0.44%
นายพาวเวลแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างไรก็ดี นายพาวเวลยอมรับว่าการดำเนินการของเฟดมีความเสี่ยงที่จะทำให้อัตราว่างงานสูงขึ้นด้วย
ทางด้านกระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี CPI พื้นฐานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นนั้น ยังไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนยังคงส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาพลังงานในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 17.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ราคาน้ำมันก๊าดทะยานขึ้น 25.1% และราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 13.1% แม้ว่ารัฐบาลออกมาตรการอุดหนุนการขายส่งน้ำมันเพื่อที่จะควบคุมราคาขายปลีกที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
ส่วนราคาอาหารซึ่งไม่นับรวมอาหารสด ปรับตัวขึ้น 2.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าผู้บริโภคเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งวุฒิสภาหรือสภาสูง (House of Councillors) ในเดือนหน้า ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะที่ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว