ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในจีน และแนวโน้มการลงทุนด้านสาธารณูปโภคทั่วโลกได้ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,258.32 จุด เพิ่มขึ้น 49.51 จุด หรือ +0.69%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น หลังจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้และในหลายเมือง ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาโลหะพื้นฐาน
ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นเชลล์และหุ้นบีพี ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1.5%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย อาทิ หุ้นแองโกล อเมริกัน, ริโอ ทินโต และเกล็นคอร์ ปรับตัวขึ้น 1.7-3% หลังผู้นำกลุ่ม G7 ยืนยันที่จะเพิ่มการใช้จ่ายทุน 6 แสนล้านดอลลาร์ในระยะ 5 ปีเพื่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในประเทศกำลังพัฒนา
ส่วนหุ้นรายตัวที่พุ่งขึ้นหนุนตลาดได้แก่ หุ้นแคร์เทค ซึ่งพุ่งขึ้น 21.1% หลังตกลงขายกิจการให้กับกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัทชีคห์ โฮลดิ้งส์ เป็นวงเงิน 870.3 ล้านปอนด์ (1.07 พันล้านดอลลาร์)
หุ้นบีเออี ซิสเทมส์ พุ่ง 2.0% หลังได้รับสัญญาจ้างวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์จากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ