ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง โดยนักลงทุนซึมซับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,830.69 จุด ลดลง 40.58 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,039.11 จุด ลดลง 190.41 จุด หรือ -0.86% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,377.08 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.06%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/2565 โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐในวันพุธ ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญกับภาวะตึงตัวมากขึ้นหลังจากกลุ่มประเทศ G7 ยืนยันว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในระดับที่รุนแรงขึ้น เพื่อสกัดแหล่งรายได้ในการทำสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 115.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า G7 จะพัฒนากลไกในการจำกัดราคาน้ำมันรัสเซียเพื่อกดดันให้รัสเซียขาดแคลนรายได้ที่จะนำมาสนับสนุนการสู้รบในยูเครน