ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 500 จุดในวันอังคาร (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,946.99 จุด ร่วงลง 491.27 จุด หรือ -1.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,821.55 จุด ลดลง 78.56 จุด หรือ -2.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,181.54 จุด ร่วงลง 343.01 จุด หรือ -2.98%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข่าวจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 แต่จากนั้นตลาดร่วงลงสู่แดนลบ หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100.0 จากระดับ 103.2 ในเดือนพ.ค. โดยผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกร่วงลงหลังมีการเปิดเผยผลสำรวจดังกล่าว โดยหุ้นทาร์เก็ต ร่วงลง 3.40% หุ้นโลว์ส (Lowe's) ดิ่งลง 5.13% หุ้นวอลมาร์ท ลดลง 1.38% หุ้นโฮมดีโปท์ ดิ่งลง 4.41% หุ้นเบสท์ บาย ร่วงลง 4.56%
หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ลดลง 1.56% หุ้นโคคา-โคลา ลดลง 0.97% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค ลดลง 0.79% หุ้นราล์ฟ ลอเรน ลดลง 0.99% หุ้นไนกี้ ดิ่งลง 6.98% หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ร่วงลง 5.75%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิปดิ่งลงถ้วนหน้า โดยหุ้นแอมะซอน ร่วงลง 5.14% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 3.17% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 5.04% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 3.3% หุ้นอินวิเดีย ดิ่งลง 5.26% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ทรุดลง 6.24% หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.2%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและกลุ่มกาสิโนดีดตัวขึ้น หลังจากจีนประกาศลดระยะเวลากักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถานที่ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 14 วัน ส่วนการกักตัวที่บ้านพักหลังจากนั้นได้ลดลงเหลือเพียง 3 วัน จากเดิม 7 วัน โดยการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนครเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่งประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ หุ้นลาเวกัส แซนด์ส พุ่งขึ้น 4.04% หุ้นวินน์ รีสอร์ทส์ พุ่งขึ้น 3.15% หุ้นเมลโค รีสอร์ท แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ทะยานขึ้น 5.11%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2565 ของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย ส่วนในการประมาณการครั้งที่ 1 นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP หดตัว 1.4% และในการประมาณการครั้งที่ 2 ระบุว่า GDP หดตัว 1.5%