ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,775.43 จุด ร่วงลง 253.88 จุด หรือ -0.82%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,785.38 จุด ลดลง 33.45 จุด หรือ -0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,028.74 จุด ลดลง 149.16 จุด หรือ -1.33%
ในช่วงครึ่งปีแรก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 15.3% ซึ่งเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2505 และเมื่อพิจารณาตลอดไตรมาส 2 ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2563 ขณะที่ดัชนี S&P500 ร่วงลง 20.6% ในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513 และเมื่อพิจารณาตลอดไตรมาส 2 ดัชนี S&P500 ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2563
ส่วนดัชนี Nasdaq ร่วงลง 29.5% ในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นการดิ่งลงที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อพิจารณาตลอดไตรมาส 2 ดัชนี Nasdaq ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
สำหรับภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเฟดส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนเม.ย.เช่นกัน ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.04% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.83% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 2.56% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 2.49% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.80% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.50%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารร่วงลง 1.55% โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 1.64% หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 1.1% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.8% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.96% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.45% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 1.32%
หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทคาร์นิวัล คอร์ป โดยระบุว่าราคาหุ้นของบริษัทอาจจะปรับตัวลดลงเหลืองศูนย์ ทั้งนี้ หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 2.48% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ร่วงลง ดิ่งลง 3.08% หุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ ร่วงลง 3.89%
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 7.27% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสทรุดตัวลง 76% เนื่องจากยอดขายในสหรัฐชะลอตัวลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน