ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันอังคาร (5 ก.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,025.47 จุด ลดลง 207.18 จุด หรือ -2.86%
หุ้นเชลล์, หุ้นเอชเอสบีซี และหุ้นเกล็นคอร์ ร่วงลงเกือบ 2%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ราคาก๊าซในอังกฤษพุ่งขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณก๊าซจากนอร์เวย์ หลังจากคนงานเริ่มประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มขึ้น
แต่หุ้นเซนส์เบอรีส์ ปรับตัวขึ้น 1.4% สวนทางตลาด หลังรายงานยอดขายลดลง 4% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักลงทุน หลังจากที่เทสโก้และมอร์ริสันส์ประกาศเตือนเกี่ยวกับยอดขายในเดือนที่ผ่านมา
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันอังคาร เอสแอสด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอสรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.ของอังกฤษ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.3 สูงกว่าประมาณการขั้นต้นที่ 53.4
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการขั้นสุดท้าย ขยับขึ้นแตะ 53.7 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 53.1 และสูงกว่าระดับ 53.1 ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักรยังคงมีการขยายตัว อย่างไรก็ดี สัญญาณที่บ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย