ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกตามทิศทางหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังนักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมเดือนมิ.ย. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,298.66 จุด เพิ่มขึ้น 191.01 จุด หรือ +0.73%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,498.91 จุด ลดลง 87.75 จุด หรือ -0.41% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,372.42 จุด เพิ่มขึ้น 17.07 จุด หรือ +0.51%
คณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 14-15 มิ.ย. เมื่อวานนี้ โดยใจความตอนหนึ่งระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยมีแนวโน้มว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์โควิด-19 ในจีน โดยกรุงปักกิ่งระบุว่า จะกำหนดให้ประชาชนที่จะเข้าไปยังสถานที่แออัด เช่น โรงภาพยนตร์และโรงยิม ต้องฉีดวัคซีนก่อน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลการระบาดในเซี่ยงไฮ้ที่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์ตามมา หลังพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นจำนวน 54 รายในวันพุธ (6 ก.ค.) ซึ่งรวมถึง 2 รายที่อยู่นอกเขตกักตัว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษมาเก๊าได้สั่งปิดห้างสรรพสินค้า "วันเซ็นทรัล" (One Central) ติดกับกาสิโนรีสอร์ท "เอ็มจีเอ็ม ไชน่า" (MGM China) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายรายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว
ตลาดยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 3.6%