ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงขึ้นของธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่การคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจที่น่ากังวลจากบริษัทต่าง ๆ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขาย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,039.81 จุด ลดลง 116.56 จุด หรือ -1.63%
ตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น
ตลาดปรับตัวรับความเป็นไปได้ 72.8% ที่ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 3.3% และ 4.5% ตามลำดับ ตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง หลังจากตลาดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจและทำให้อุปสงค์ลดลง
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.9%
หุ้นแบแรตต์ ดีเวลล็อปเมนต์ ร่วง 1.5% หลังรายงานการสร้างบ้านเสร็จน้อยกว่าที่คาดไว้ในปีนี้
หุ้นแอชมอร์ กรุ๊ป บริษัทด้านการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ร่วงลง 6.3% หลังเปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารร่วงลง 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลกทรุดตัวลงภายใต้ความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนวิตกกังวล
หุ้นเพลย์เทค ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ด้านการพนัน ร่วง 18.2% หลังจากบริษัททีทีบี พาร์ตเนอร์สซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนและที่ปรึกษาในฮ่องกงได้ยกเลิกการเสนอซื้อกิจการเพลย์เทค โดยระบุถึงสภาวะตลาดที่ย่ำแย่