ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (18 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น และแนวโน้มตลาดทั่วโลกที่สดใสขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,223.24 จุด เพิ่มขึ้น 64.23 จุด หรือ +0.90%
หุ้นเชลล์และหุ้นบีพีหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัวจากรัสเซีย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ เกล็นคอร์ และริโอ ทินโต พุ่งขึ้น 2.9% และ 3.2% ตามลำดับ หลังจากราคาโลหะพุ่งขึ้นขานรับมาตรการของจีนที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทยุโรปในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น, การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง และความไม่แน่นอนทางการเมือง
นักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษ อาทิ การจ้างงาน, เงินเฟ้อ และยอดค้าปลีก
หุ้นยูโรมันนี พุ่ง 9.5% หลังกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัทแอสทอร์ก แอสเซต แมเนจเมนต์เปิดเผยว่า จะเสนอซื้อบริษัทยูโรมันนีซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลธุรกิจด้วยข้อตกลงวงเงิน 1.66 พันล้านปอนด์ (1.97 พันล้านดอลลาร์)
แต่หุ้นฮาลีออน (Haleon) ร่วง 6.6% หลังเปิดตลาดซื้อขายวันแรก โดยฮาลีออนเป็นธุรกิจที่แยกตัวจากแกล็กโซสมิทไคล์น (GSK) ขณะที่หุ้น GSK ทรงตัว