ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (19 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ หลังมีรายงานว่าท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 จากรัสเซียไปยังยุโรปจะเปิดดำเนินการอีกครั้งตามกำหนดนั้น ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 423.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +1.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,201.22 จุด เพิ่มขึ้น 109.31 จุด หรือ +1.79%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,308.41 จุด เพิ่มขึ้น 348.60 จุด หรือ +2.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,296.28 จุด เพิ่มขึ้น 73.04 จุด หรือ +1.01%
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 ซึ่งส่งก๊าซธรรมชาติมากกว่า 1 ใน 3 ของรัสเซียไปยังสหภาพยุโรปนั้น คาดว่าจะเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ แต่ส่งก๊าซในปริมาณที่น้อยกว่ากำลังการขนส่งที่ราว 160 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปไม่คาดว่า ท่อส่งก๊าซดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการได้ตามกำหนดหลังการปิดซ่อมบำรุง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และบวกขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์นำตลาดพุ่งขึ้น 3.1% และหุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 2.9%
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นรวมถึง หุ้นอีดีเอฟ ทะยานขึ้น 14.7% หลังรัฐบาลฝรั่งเศสเสนอซื้อกิจการทั้งหมดของอีดีเอฟเป็นเงิน 9.7 พันล้านยูโร (9.85 พันล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีรายงานว่า ผู้กำหนดนโยบายของ ECB กำลังพิจารณาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาด 0.50% เพื่อสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน