ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน แม้ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 424.39 จุด เพิ่มขึ้น 1.88 จุด หรือ +0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,201.11 จุด เพิ่มขึ้น 16.45 จุด หรือ +0.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,246.64 จุด ลดลง 35.34 จุด หรือ -0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,270.51 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด หรือ +0.09%
ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.6%
ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.50% สู่ระดับ 0% ในวันนี้ จากเดิมที่ระดับ -0.50% โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้ปรับตัวต่ำกว่า 0% นานถึง 9 ปี
นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ 0.50% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ระดับ 0% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.50% สู่ระดับ 0.75% จากเดิมที่ระดับ 0.25%
อย่างไรก็ตาม ECB ไม่ได้บ่งชี้ถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยระบุแต่เพียงว่า มีความเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะทำการตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้ง
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีลดช่วงติดลบลงเหลือลดลง 2.9% หลังร่วงถึง 7.2% ในช่วงเช้า หลังจากนายมาริโอ ดรากี ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้อิตาลีเข้าสู่ภาวะปั่นป่วนทางการเมืองครั้งใหม่ และการเลือกตั้งอาจจะมีขึ้นในเดือนก.ย.หรือต.ค.
ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป โดยท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 ได้กลับมาทำการส่งก๊าซอีกครั้ง โดยท่อส่งก๊าซดังกล่าวเป็นท่อส่งก๊าซใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียและเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX 600 ยังคงปรับตัวลง 13% แล้วในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกหลังจากธนาคารกลางต่าง ๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่การอ่อนค่าลงของเงินยูโร และความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนพลังงานในยุโรปยังคงส่งผลกดดันตลาด
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นรายตัวพุ่งขึ้น โดยหุ้นเวียเพลย์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทสื่อของสวีเดน พุ่ง 11.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง
หุ้นเอเอสเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 14% หลังเปิดเผยยอดสั่งซื้อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นพับลิซิส ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก พุ่ง 5.1% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี