ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงินได้ช่วยหนุนตลาด แม้หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลงก็ตาม นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,270.51 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด หรือ +0.09%
หุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ กลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน ปรับตัวขึ้น 0.7% และ 0.6% ตามลำดับ
แต่ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเชลล์และหุ้นบีพี ร่วงลงราว 1% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ลดลงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
แม้จะเกิดวิกฤตค่าครองชีพที่รุนแรงในอังกฤษ แต่ดัชนี FTSE 100 ก็ยังปรับตัวดีกว่าดัชนีของตลาดหุ้นอื่น ๆ ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า ดัชนี FTSE 100 จะยังคงสามารถปรับตัวสดใสในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่
นักลงทุนจะจับตาการแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษระหว่างนายริชิ ซูแนค อดีตรมว.คลัง และนางลิซ ทรัสส์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ โดยจะประกาศผลการเลือกตั้งในวันที่ 5 ก.ย.
หุ้นเฟรเซอร์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านแฟชั่นและผลิตชุดกีฬาของนายไมค์ แอชลีย์ พุ่งขึ้น 26.6% หลังจากคาดว่าผลกำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนหุ้นรายตัว โดยหุ้นไอจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ พุ่งขึ้น 10.0% หลังรายงานผลกำไรต่อปีมากกว่าคาด