ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวสู่แดนบวก โดยทำระดับปิดรายสัปดาห์สูงสุดในรอบหลายเดือน หลังนักลงทุนซึมซับข่าวธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.)
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,870.33 จุด เพิ่มขึ้น 67.33 จุด หรือ +0.24%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,598.98 จุด เพิ่มขึ้น 24.35 จุด หรือ +0.12% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,261.12 จุด ลดลง 10.88 จุด หรือ -0.33%
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งรุนแรงกว่าที่ ECB ส่งสัญญาณในเดือนมิ.ย. ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยกลไกใหม่ที่เรียกว่า Transmission Protection Instrument (TPI) เพื่อช่วยเหลือประเทศในยูโรโซนที่มีปัญหาหนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ ภายใต้กลไก TPI จะทำให้ ECB สามารถเข้าซื้อพันธบัตรจากประเทศที่มีหนี้สินจำนวนมาก เช่น อิตาลี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก
นักลงทุนยังจับตาการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอลของอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี รวมถึงอียูในวันนี้