ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในช่วงเช้านี้ หลังจากบริษัทวอลมาร์ทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรไตรมาส 2 และผลกำไรตลอดปี 2565
ณ เวลา 08.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 160 จุด หรือ -0.50% แตะที่ 31,807 จุด
วอลมาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และได้รับการพิจารณาว่าเป็นบริษัทที่มีผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาส 2 และผลกำไรตลอดปี 2565 โดยระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องไฟฟ้า และหันไปใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร
ทั้งนี้ วอลมาร์ทคาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะลดลงราว 8% - 9% และคาดว่ากำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2565 จะลดลงราว 11% - 13% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะขยับขึ้นเล็กน้อย และกำไรต่อหุ้นในปี 2565 จะลดลงเพียง 1%
การปรับลดคาดการณ์ผลกำไรดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นวอลมาร์ทร่วงลงกว่า 9% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ และได้ฉุดราคาหุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นดิ่งลงด้วย โดยหุ้นทาร์เก็ตร่วงลงกว่า 6% หุ้นแอมะซอนปรับตัวลงกว่า 3% ขณะที่หุ้นเมซีส์, หุ้นโคห์ลส์ และหุ้นนอร์ดสตรอม ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 3%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทวอลมาร์ทมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 16 ส.ค.นี้