ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการที่วอลมาร์ทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,863.31 จุด ลบ 126.73 จุด หรือ 0.4%
ราคาหุ้นของวอลมาร์ท อิงค์ ดิ่งลงกว่า 8% หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
การร่วงลงของหุ้นวอลมาร์ทได้ฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกดิ่งลงในวันนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ วอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และได้รับการพิจารณาว่าเป็นบริษัทที่สามารถสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาส 2 และตลอดปี 2565 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า และหันไปใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร
วอลมาร์ทคาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะลดลงราว 8-9% และกำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2565 จะลดลงราว 11-13% จากเดิมที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และกำไรต่อหุ้นในปี 2565 จะลดลงเพียง 1%
วอลมาร์ทมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 16 ส.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท และไมโครซอฟท์หลังปิดตลาดวันนี้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 โดยเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่รุนแรงกว่าคาด รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.2% ในปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.9% ในปี 2566 โดยปรับลดลง 0.4% และ 0.7% ตามลำดับจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.
IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐสู่ระดับ 2.3% ในปี 2565 และ 1.0% ในปี 2566 ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัว 3.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินเดียสู่ระดับ 7.4% ในปีนี้
ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค. หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า GDP หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1
ผลการสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์ระบุว่านักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1% ในไตรมาส 2
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่คาดการณ์ในวันที่ 15 ก.ค.ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.5%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ซึ่งแสดงว่าสหรัฐเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 27 ก.ค. ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค.