ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (26 ก.ค.) นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนีและอิตาลี หลังประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติแผนการฉุกเฉินที่จะควบคุมการใช้ก๊าซ และหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังวอลมาร์ทเตือนเกี่ยวกับผลกำไร
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 426.13 จุด ลดลง 0.12 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,211.45 จุด ลดลง 26.10 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,096.93 จุด ลดลง 113.39 จุด หรือ -0.86% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,306.28 จุด ลดลง 0.02 จุด หรือ -0.0003%
EU ตกลงที่จะลดความต้องการใช้ก๊าซ หลังจากบริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียเปิดเผยว่า จะลดการส่งก๊าซผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ไปยังเยอรมนีเพียง 1 ใน 5 ของกำลังการจัดส่ง ซึ่งยุโรปมองว่าเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
บรรดารมว.พลังงานอนุมัติข้อเสนอสำหรับประเทศสมาชิก EU ทั้งหมดที่จะลดการใช้ก๊าซลง 15% โดยสมัครใจตั้งแต่เดือนส.ค.ถึงมี.ค. ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนและยูโรร่วงลง
ตลาดยังถูกกดดันหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ลงเหลือ 2.6% จาก 2.8% ที่คาดไว้ในเดือนเม.ย. ขณะที่เยอรมนีคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.2% ในปีนี้ ลดลงจาก 2.1% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ส่วนเครดิตสวิสปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ลงเหลือ 2.3% จาก 2.4% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงรุนแรงในเยอรมนีและอิตาลี
ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 17.6% แล้วในปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นอิตาลีร่วงลงมากกว่า 20% จากผลกระทบทางการเมืองภายในประเทศ
บรรดานักลงทุนจะจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง 4.2% โดยถูกกดดันจากการที่บริษัทวอลมาร์ทของสหรัฐเตือนเกี่ยวกับผลกำไร หลังราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค
แต่หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังหุ้นยูนิลีเวอร์เปิดเผยผลประกอบการที่สดใส ขณะที่หุ้นธนาคารยูบีเอสร่วงลงหลังเปิดเผยผลกำไรต่ำกว่าคาด