ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร (26 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป และการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มธนาคารได้บดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และการคาดการณ์ยอดขายที่สดใสของบริษัทยูนิลีเวอร์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,306.28 จุด ลดลง 0.02 จุด หรือ -0.0003%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดเกือบทรงตัวหลังบวก 0.8% ในการซื้อขายช่วงเช้า โดยหุ้นเชลล์และหุ้นเกล็นคอร์ช่วยหนุนตลาด เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 2.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 เดือน หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายทั้งปี และปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และภาวะขาดแคลนพลังงานในยุโรป หลังรัสเซียเปิดเผยว่าจะลดการส่งก๊าซให้กับยุโรปตั้งแต่วันพุธนี้
หุ้นโวดาโฟน ร่วงลง 5.2% หลังยูบีเอสและเจพี มอร์แกน ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นโวดาโฟน
หุ้นกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.8% นำโดยหุ้นบาร์เคลย์ หลังจากเปิดเผยเงื่อนไขที่จะซื้อคืนหลักทรัพย์มูลค่าถึง 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎระเบียบของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มค้าปลีกของอังกฤษ ร่วงลง 4.9% หลังวอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกของสหรัฐปรับลดคาดการณ์ผลกำไร เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นกระตุ้นให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย