ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (29 ก.ค.) และปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยูโรโซนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 438.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.52 จุด หรือ +1.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,448.50 จุด เพิ่มขึ้น 109.29 จุด หรือ +1.72%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,484.05 จุด เพิ่มขึ้น 201.94 จุด หรือ +1.52% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,423.43 จุด เพิ่มขึ้น 78.18 จุด หรือ +1.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน และปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่ขยายตัวเกินคาดในไตรมาส 2 ได้ช่วยหนุนตลาด โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้น 0.7% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส และเพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.2% ในรายไตรมาสและ 3.4% ในรายปี
หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่า 4 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 1.6% หลังธนาคารแนตเวสต์ของอังกฤษ พุ่ง 8.1% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มรายได้ทั้งปี
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่แข็งแกร่งของบริษัทแอร์เมสและลอรีอัล
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ของฝรั่งเศสและหุ้นบีบีวีเอของสเปน พุ่งขึ้น 2.9% และ 6.0% ตามลำดับ หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสดีกว่าคาด
หุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.1% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี