ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าส่วนใหญ่ในแดนลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐ หลังสื่อรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะเดินทางเยือนไต้หวัน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,549.41 จุด ร่วงลง 443.94 จุด หรือ -1.59%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,619.86 จุด ร่วงลง 545.98 จุด หรือ -2.71% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,166.59 จุด ร่วง 93.37 จุด หรือ -2.86%
สื่อไต้หวันรายงานว่า นางเพโลซีอาจเดินทางเยือนไต้หวันในวันนี้ (2 ส.ค.) และเข้าพบกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันในวันพรุ่งนี้ โดยข่าวเยือนไต้หวันของนางเพโลซีได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะไต้หวัน พร้อมขู่ตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหาร
นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เตือนว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีจะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรง
ทางด้านกองทัพสหรัฐได้ส่งเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวัน เพื่อเตรียมการรักษาความปลอดภัยสำหรับเครื่องบินของนางเพโลซี หากมีการเยือนไต้หวัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้ว สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นเร็วที่สุดในรอบเกือบ 24 ปีในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานและอาหารที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
รายงานระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังปรับขึ้น 6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2541
ทั้งนี้ ดัชนี CPI เคลื่อนไหวในกรอบ 6% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ค. และอยู่เหนือระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อระยะกลางของ BOK ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 ในเดือนก.ค.