ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าส่วนใหญ่ในแดนบวก หลังนักลงทุนซึมซับรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งสร้างสถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,740.97 จุด เพิ่มขึ้น 146.24 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 12.85 จุด หรือ +0.40% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,809.55 จุด เพิ่มขึ้น 120.34 จุด หรือ +0.61%
นักลทุนซึมซับปัจจัยบวก หลังผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 15 เดือน หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 55.5 จากระดับ 54.5 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนี PMI เดือนก.ค.ทำสถิติขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 53.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งแม้ว่าลดลงจากระดับ 54.7 ในเดือนมิ.ย. แต่ดัชนีที่อยู่เหนือ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ขณะเดียวกัน ทั่วโลกยังจับตาดูความเคลื่อนไหวระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวัน และเข้าพบกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินในวันนี้ (3ส.ค.)
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ยังรายงานว่า นางเพโลซีจะพบปะกับนายมาร์ก หลิว ประธานบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) ระหว่างการเยือนไต้หวันในวันนี้ โดย TSMC เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่น่าติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.ของออสเตรเลีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อียู และอังกฤษ