ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวล หลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่ได้ทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐ
นอกจากนี้ การซื้อขายยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 22.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,723.20 จุด บวก 327.03 จุด หรือ 1.01%
ทั้งนี้ นางเพโลซีได้เดินทางออกจากไต้หวันแล้วในวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดวิตกว่าการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีจะเป็นการยั่วยุจีน และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการเผชิญหน้ากันทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐ
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย แม้เฟดยังคงเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.7 ในเดือนก.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 53.5 หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 เดือน
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานทะยานขึ้น 13.5% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ
นักลงทุนยังคงจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าระดับ 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.