ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (8 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ถึง 2 เท่า จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,832.54 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,140.06 จุด ลดลง 5.13 จุด หรือ -0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,644.46 จุด ลดลง 13.10 จุด หรือ -0.10%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.6%
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มวัสดุ โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ พุ่งขึ้น 1.46% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส พุ่งขึ้น 3.72% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ดีดขึ้น 1.16% หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ปรับตัวขึ้น 1.59%
หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง 6.3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2565 จะลดลง 19% สู่ระดับ 6.7 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธุรกิจเกมชะลอตัวลง ซึ่งการร่วงลงของหุ้นอินวิเดียส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.92% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.14% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.62%
หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์พุ่งขึ้น โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดีดขึ้น 3.2% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ ทะยานขึ้น 6.16% หลังจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายต่อสู้ภาวะโลกร้อนในวงเงิน 4.30 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 4,000 ดอลลาร์ให้กับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง และจัดหาเงินอีกหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.