ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (8 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มน้ำมันและก๊าซ และกลุ่มธนาคาร หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และสหรัฐคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,482.37 จุด เพิ่มขึ้น 42.63 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยหุ้นเชลล์และหุ้นบีพี ปรับตัวขึ้นราว 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐและข้อมูลการส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ แองโกล อเมริกัน และริโอ ทินโต ปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะและสินแร่เหล็ก ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก โดยบวกขึ้น 1.3% ในปีนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนสดาวน์ บริษัทบริการแพลตฟอร์มการลงทุน พุ่งขึ้น 7.2% หลังจากเปิดเผยคาดการณ์ผลกำไรต่อปีสูงเกินคาด