ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยตลาดส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดอีกส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเรื่องเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานพุ่งเหนือคาดเมื่อสัปดาห์ก่อน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,009.35 จุด ลดลง 239.89 จุด หรือ -0.85%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,228.71 จุด ลดลง 182.94 จุด หรือ -0.91% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,246.95 จุด เพิ่มขึ้น 10.01 จุด หรือ +0.31%
ขณะนี้ นักลงทุนมีแนวโน้มชะลอการลงทุน ก่อนการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธที่ 11 ส.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยนักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ข้อมูลเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยนโยบายของธนาคากลางสหรัฐ (เฟด) มากกว่าข้อมูลจ้างงาน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีนจากประเด็นไต้หวัน โดยจีนประกาศซ้อมรบรอบใหม่ทั้งในทะเลและอากาศรอบเกาะไต้หวันเมื่อวานนี้ ส่วนไต้หวันเปิดฉากซ้อมรบยิงปืนใหญ่โดยใช้กระสุนจริงเช้านี้ โดยจำลองสถานการณ์ป้องกันการรุกรานจากจีน
อีกปัจจัยที่สร้างความวิตกกังวลคือยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในบางประเทศของเอเชีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่เป็นปัจจัยสำคัญของผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
หุ้นโตเกียวปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังบริษัทไฮเทคบางแห่งของญี่ปุ่นรายงานผลประกอบการอ่อนแอกว่าที่คาดในวันจันทร์ โดยหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การขนส่งร่วงนำตลาด