ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (9 ส.ค.) โดยยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,488.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +0.08%
แต่หุ้นเอบีอาร์ดีเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ ร่วงลง 2.8% หลังรายงานผลกำไรต่ำกว่าคาด โดยถูกกดดันจากความปั่นป่วนของตลาดทั่วโลก ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในวงกว้าง
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ ก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด
นายเดฟ แรมสเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า BoE อาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในปัจจุบันเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ
นอกจากนี้ นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลงในไตรมาส 2
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงบวกขึ้น 1.5% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI หุ้นโลกที่ร่วงลงเกือบ 15% ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและโลหะที่พุ่งขึ้นในปีนี้