ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวกว่าคาดในเดือนก.ค. ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 439.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด หรือ +0.89% โดยปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,523.44 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,700.93 จุด เพิ่มขึ้น 165.96 จุด หรือ +1.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.11 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนก.ค. หลังจากราคาน้ำมันเบนซินร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ตลาดการเงินยูโรโซนยังได้ปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปิดบวก 2.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มค้าปลีก รวมถึงกลุ่มเดินทางและนันทนาการปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นเวสทาสซึ่งเป็นบริษัทผลิตกังหันลม พุ่งขึ้น 8.8% หลังเปิดเผยว่าจะขายธุรกิจคอนเวอร์เตอร์และแผงควบคุมให้กับบริษัทเคเค วินด์ โซลูชันส์
หุ้นอาโฮลด์ เดอแลซ ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ พุ่ง 7.6% หลังเปิดเผยว่า บริษัทเลื่อนแผนทำ IPO หุ้นของโบล.คอม (Bol.com) บริษัทในเครือซึ่งทำธุรกิจค้าปลีกสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย