ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นต่อจากวานนี้
ณ เวลา 19.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 220 จุด หรือ 0.66% สู่ระดับ 33,480 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุดวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. และเพิ่มคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI วานนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 2.75-3.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 36.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ตลาดจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันนี้ โดยคาดว่าจะชะลอตัวเช่นเดียวกับตัวเลข CPI
นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน จากระดับ 1.1% ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 11.3% ในเดือนมิ.ย.