ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังราคาหุ้นร่วงลงในช่วงแรก
ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,894.36 จุด บวก 133.31 จุด หรือ 0.39%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงสวนทางตลาด ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หลังเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกและการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาสภาพคล่อง
หุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลงเกือบ 1% หลังประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเปิดเผยว่าติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาและวัคซีนต้านโควิด-19 รายใหญ่ของโลก เปิดเผยในวันนี้ว่า เขามีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และขณะนี้มีอาการป่วยเล็กน้อย
นายเบอร์ลากล่าวว่า เขากำลังอยู่ในกระบวนการกักตัว และได้รับการรักษาด้วยยาแพกซ์โลวิด ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ของทางบริษัท
นายเบอร์ลาได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ถึง 4 โดส โดยเป็นวัคซีนที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัทไฟเซอร์ของเขาและบริษัทไบออนเทค ก่อนที่มีการเปิดเผยว่าติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้
ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อกำไรของบริษัท
นอกจากนี้ นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ในวันพุธนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายยังคงแสดงความเห็นหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีสัญญาณว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง
นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. และถือเป็นข้อมูลในเชิงบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน
อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์ระบุว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงอย่างยอมรับไม่ได้ และเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ด้านนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่เฟดจะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นางดาลีไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมเดือนก.ย.
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 6 จุด สู่ระดับ 49 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ
การร่วงลงของดัชนีความเชื่อมั่นมีสาเหตุจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และต้นทุนในการก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในปัจจุบันต่างปรับตัวลง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ -31.3 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +5.0 จากระดับ +11.1 ในเดือนก.ค.
ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในนิวยอร์กอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ภาคธุรกิจลดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มในช่วง 6 เดือนข้างหน้า