ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (16 ส.ค.) ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทบีเอชพี กรุ๊ป ได้หนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,536.06 จุด เพิ่มขึ้น 26.91 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากหุ้นบีเอชพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดของโลก ที่พุ่งขึ้น 5.5% หลังรายงานผลกำไรแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาถ่านหินและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อื่น ๆ อาทิ ริโอ ทินโต, เกล็นคอร์ และแอนโทฟากัสตา ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 3.7%
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นเท็ด เบเคอร์ พุ่งขึ้น 16.9% หลังบริษัทออเทนติก แบรนด์ ตกลงที่จะซื้อกิจการของเท็ด เบเคอร์ในการทำข้อตกลงมูลค่าราว 211 ล้านปอนด์ (254.26 ล้านดอลลาร์)
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 8% แล้วนับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดของปีนี้ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดของปีนี้ไม่ถึง 2%
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาสราว 83% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งที่ 2 ในเดือนก.ย.
ส่วนตัวเลขการจ้างงานของอังกฤษที่เปิดเผยในวันอังคารบ่งชี้ว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในไตรมาส 2 แต่ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของรอยเตอร์คาดไว้ที่ 256,000 ตำแหน่ง ส่วนค่าจ้างที่มีการปรับสำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค ลดลง 4.1% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2544