ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบ โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,984.56 จุด ลดลง 238.21 จุด หรือ -0.82%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,797.71 จุด ลดลง 124.74 จุด หรือ -0.63% และ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,276.62 จุด ลดลง 15.91 จุด หรือ -0.48%
รายงานการประชุมครั้งล่าสุดระบุว่า กรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น จนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ แต่ในขณะเดียวกัน เฟดก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดตระหนักว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
"ตลาดหุ้นผันผวน เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานประชุมเฟด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อไปจนกว่าจะสามารถสกัดเงินเฟ้อสำเร็จ" ออร์ด มินเนตต์ นักวิเคราะห์กล่าว
"ขณะเดียวกัน เฟดส่งสัญญาณด้วยว่าอาจชะลอระดับการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและความเสี่ยงขาลงสำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)"
เทนเซ็นต์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมจากจีน และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวีแชท (WeChat) เปิดเผยวานนี้ว่า รายได้รายไตรมาสลดลงเป็นครั้งแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขาดการอนุมัติเกมใหม่ ๆ และมาตรการจำกัดเวลาเล่นเกม รวมถึงการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโควิด-19 และพิษจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอจนกระทบยอดขายโฆษณา
เทนเซ็นต์ระบุว่า รายได้ของบริษัทลดลง 3% สู่ระดับ 1.34034 แสนล้านหยวน (1.978 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงเวลาสามเดือนซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.