ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (22 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปริมาณก๊าซที่ตึงตัวจากรัสเซีย, สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.17 จุด ลดลง 4.19 จุด หรือ -0.96% โดยระดับปิดวันนี้เป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,378.74 จุด ลดลง 117.09 จุด หรือ -1.80%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,230.57 จุด ลดลง 313.95 จุด หรือ -2.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%
บริษัทก๊าซพรอมเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (19 ส.ค.) ว่า รัสเซียจะระงับการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปเป็นเวลา 3 วันในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อทวีปยุโรป ซึ่งต้องการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงก่อนถึงฤดูหนาว
หุ้นยูนิเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของเยอรมนีที่นำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ร่วงลง 7.7% และหุ้นฟอร์ทัมซึ่งเป็นบริษัทแม่ ร่วงลง 4.4% ซึ่งส่งผลให้ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์
หุ้นเครดิต สวิส ลดลง 0.8% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังแต่งตังนายดิซิท โจชิของดอยซ์แบงก์เป็นประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และแต่งตั้งฟรานเซสกา แมคโดนาห์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
หุ้นคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ร่วงลง 0.9% หลังเปิดเผยว่าจะตรึงราคาสินค้า 100 รายการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในประเทศ
หุ้นซีนีเวิลด์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของโลก ร่วง 21.4% หลังยืนยันยื่นขอล้มละลายตามมาตรา 11 ในสหรัฐ
หุ้นอาดิดาสของเยอรมนี ร่วงลง 5.2% หลังเปิดเผยว่า นายคาสปอร์ รอร์สเต็ด ซีอีโอจะลาออกจากตำแหน่งในปีหน้า
จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนในวันอังคารนี้ และการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งก่อนของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป