ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันจันทร์ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพที่ย่ำแย่ลง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%
หุ้นกลุ่มสายการบิน, อุตสาหกรรม, ก่อสร้างบ้าน และค้าปลีก ร่วงลงมากที่สุด
แต่หุ้นกลุ่มส่งออกยังคงได้แรงหนุนจากค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางรายใหญ่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, ราคาพลังงานในยุโรปพุ่งขึ้น และคนงานท่าขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ของอังกฤษทำการประท้วงเป็นวันที่ 8 แล้ว
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอังกฤษหลังข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10%, ค่าแรงต่ำกว่าเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดว่า เงินเฟ้อในอังกฤษจะแตะระดับสูงสุดที่ 18% ในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษถึง 9 เท่า
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกกังวลก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ๊กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในสัปดาห์นี้
หุ้นวิซซ์ แอร์ ร่วงลง 9.8% หลังเปิดเผยว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินจะลาออกจากตำแหน่ง
หุ้นซีนีเวิลด์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 21.4% หลังเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงการยื่นขอล้มละลายในสหรัฐ