ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในคืนนี้
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,329.23 จุด บวก 37.45 จุด หรือ 0.11%
หุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ร่วงลงสวนทางตลาด หลังบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ประกาศฟ้องไฟเซอร์ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งเข้าสู่วันที่ 2 ในวันนี้ ขณะที่ไฮไลท์อยู่ที่การกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า มีความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่นายพาวเวลจะกล่าวในวันนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่ต้องการได้ยิน โดยเขายังคงกล่าวตามที่เคยกล่าวมาโดยตลอดว่า เฟดจะต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไป แต่จะเน้นย้ำด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้น
มีการคาดการณ์ว่า นายพาวเวลจะกล่าวว่าเฟดจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และคาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณว่า หลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นอกจากนี้ คาดว่านายพาวเวลจะไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. แต่จะย้ำว่า การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้า โดยก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมในวันที่ 20-21 ก.ย. สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันที่ 2 ก.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ในวันที่ 13 ก.ย.
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจากที่ดีดตัวขึ้น 6.8% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.8% และชะลอตัวจากระดับ 4.8% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ