ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (31 ส.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการ และทำสถิติเดือนส.ค.ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,510.43 จุด ร่วงลง 280.44 จุด หรือ -0.88%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,955.00 จุด ลดลง 31.16 จุด หรือ -0.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,816.20 จุด ลดลง 66.93 จุด หรือ -0.56%
ตลอดทั้งเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงทั้งสิ้น 4.06%, ดัชนี S&P500 ดิ่งลง 4.24% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 4.64% โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทำผลงานในเดือนส.ค.ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558
ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย และยังกล่าวด้วยว่าหลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทางด้านนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่เหนือระดับ 4% ภายในต้นปี 2566 และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ นางเมสเตอร์ส่งสัญญาณว่าเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง นำโดยหุ้นเอชพี ดิ่งลง 7.68% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบปีงบการเงิน 2565 นอกจากนี้ ผู้บริหารของเอชพียังเตือนว่า ยอดขายคอมพิวเตอร์พีซีมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคกำลังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และทำให้ลูกค้าในกลุ่มนี้มีความระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อคอมพิวเตอร์พีซี
ส่วนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ รวมถึงหุ้นซีเกต เทคโนโลยี ดิ่งลง 3.54% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 0.57% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.06% หุ้นไอบีเอ็ม ลดลง 0.9% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.05%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 0.967% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.4% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.58% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.75%
หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ซึ่งเป็นบริษัทขายปลีกสินค้าภายในบ้าน ทรุดตัวลง 21.30% หลังจากบริษัทประกาศปิดสาขา 150 แห่ง และเลย์ออฟพนักงานจำนวนมาก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 132,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 270,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.