ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุด หลังปรับตัวขึ้นในช่วงแรกจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ดิ่งลงก่อนหน้านี้
ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,167.25 จุด ลบ 151.19 จุด หรือ 0.48%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในวันศุกร์ดิ่งลงกว่า 300 จุด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป หลังจากที่ดีดตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลง ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 3% ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 3.3% และดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 4.2% โดยดัชนีทั้ง 3 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
ราคาหุ้นของบริษัทแอปเปิล อิงค์ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า บราซิลสั่งห้ามขาย iPhone หากไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรี
ทั้งนี้ รัฐบาลบราซิลมีคำสั่งห้ามบริษัทแอปเปิล อิงค์ จำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีมาพร้อมกับตัวเครื่อง โดยระบุว่าทางบริษัทได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าที่ไม่สมบูรณ์ให้แก่ผู้บริโภค
กระทรวงยุติธรรมบราซิลสั่งปรับบริษัทแอปเปิลเป็นเงิน 12.275 ล้านเรอัล (2.38 ล้านดอลลาร์) หรือราว 87 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้แอปเปิลยกเลิกการจำหน่าย iPhone 12 หรือ iPhone รุ่นที่ใหม่กว่า รวมทั้งห้ามการจำหน่าย iPhone ทุกรุ่นที่ไม่ได้มาพร้อมกับที่ชาร์จแบตเตอรี
คำสั่งของกระทรวงยุติธรรมระบุว่า "การที่แอปเปิลจำหน่าย iPhone ที่ขาดอุปกรณ์สำคัญถือเป็นพฤติกรรมที่จงใจในการเลือกปฏิบัติต่อผู้บริโภค"
นอกจากนี้ กระทรวงฯยังได้ปฏิเสธข้ออ้างของแอปเปิลที่ระบุว่า การที่บริษัทจำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีมาพร้อมกับตัวเครื่องก็เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งกระทรวงฯยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า การจำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีจะช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด