ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (8 ก.ย.) นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 50 ปีและใกล้แตะระดับ 10%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 414.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด หรือ +0.50%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,125.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.98 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,904.32 จุด ลดลง 11.65 จุด หรือ -0.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,262.06 จุด เพิ่มขึ้น 24.23 จุด หรือ +0.33%
ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และสัญญาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อลดเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายระยะกลางของ ECB ที่ระดับ 2%
ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 0.75% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์สู่ระดับ 1.25% รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สู่ระดับ 1.50% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ก.ย.
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มทรัพยากร เพิ่มขึ้น 1.5%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX 600 ลดลงมากกว่า 0.4% แล้วในสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มติดลบเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับราคาพลังงานและค่าครองชีพที่พุ่งขึ้น หลังรัสเซียยุติการส่งก๊าซให้กับยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง 1.6% โดยหุ้นเอชแอนด์เอ็ม และหุ้นอินดิเท็กซ์ ร่วงลง หลังจากบริษัทอเมริกัน อีเกิล เอาต์ฟิตเทอร์ส อิงค์ของสหรัฐ เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด
หุ้นแอสโซซิเอเต็ด บริติช ฟู้ดส์ ร่วง 7.6% หลังเตือนเกี่ยวกับผลกำไรที่ลดลงในปีหน้า