ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,385.97 จุด บวก 234.26 จุด หรือ 0.73%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี CPI เป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 8.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 8.5% ในเดือนก.ค.
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ทั่วไปพุ่งแตะระดับ 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวลง 0.1% ในเดือนส.ค. โดยมีสาเหตุจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน
หากดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวลงในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ก็จะเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
เจ้าหน้าที่เฟดจะงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย. ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของเฟด
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการควบคุมเงินเฟ้อ และการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
"ประวัติศาสตร์เตือนให้เราระวังการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วเกินไป ผมขอยืนยันว่าผมและกรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อการควบคุมเงินเฟ้อ โดยเราจะดำเนินการต่อไปจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ" นายพาวเวลกล่าว