ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (14 ก.ย.) โดยยังคงถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่ระดับสูงและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากในสหรัฐ ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษที่ลดลงเกินคาดแทบไม่ได้ช่วยคลายความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากในสัปดาห์หน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.30 จุด ลดลง 108.56 จุด หรือ -1.47%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดในสหรัฐ และนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
ตลาดปรับตัวลง แม้มีการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของอังกฤษลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปีในเดือนส.ค.โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง
บรรดาเทรดเดอร์ยังคงคาดว่า มีโอกาส 87% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 2.5% ในการประชุมวันที่ 22 ก.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุ และกลุ่มสร้างบ้าน ปรับตัวลงมากที่สุด โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่เพิ่มขึ้นและวิกฤตค่าครองชีพที่เลวร้ายลง
หุ้นเรดโรว์ซึ่งเป็นบริษัทสร้างบ้าน ลดลง 0.3% หลังเปิดเผยว่า ความต้องการสร้างบ้านลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากขยายตัวแข็งแกร่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา