ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 21, 2022 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ในวันอังคาร (20 ก.ย.) โดยปรับตัวลงต่อเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงนั้น ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 403.42 จุด ลดลง 4.45 จุด หรือ -1.09%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,979.47 จุด ลดลง 82.12 จุด หรือ -1.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,670.83 จุด ลดลง 132.41 จุด หรือ -1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,192.66 จุด ลดลง 44.02 จุด หรือ -0.61%

หุ้นกลุ่มทุกกลุ่มปรับตัวในแดนลบ โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลง 4.1% นำโดยหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสวีเดน หลังจากที่ธนาคารกลางสวีเดนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1%

บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ด้วยว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่เมื่อต้นเดือนนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลง 17% แล้วในปีนี้ โดยตลาดถูกกดดันหลังจากสงครามในยูเครนทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางต่าง ๆ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยนักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อหลังจากเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการรายงานดัชนีทั้งเมื่อเทียบรายเดือนและรายปี โดยถูกผลักดันส่วนใหญ่จากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ