ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงในวันอังคาร (20 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น และผลกระทบที่มีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,192.66 จุด ลดลง 44.02 จุด หรือ -0.61%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงจากแรงขายที่เพิ่มขึ้น หลังตลาดหุ้นสหรัฐเปิดการซื้อขายในแดนลบ ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมที่สิ้นสุดในวันพุธนี้
ส่วน BoE จะประชุมในวันพฤหัสบดี ซึ่งบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีแนวโน้ม 70% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และมีแนวโน้ม 30% ที่ BoE จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50%
ธนาคารกลางสวีเดนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% สู่ระดับ 1.75% ในวันอังคาร (20 ก.ย.) และเตือนว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
หุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 0.8% สวนทางตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอังกฤษประเภท 2 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 ที่ระดับ 3.345%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มค้าปลีก ร่วงลงมากกว่า 4%
ส่วนหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นคิงฟิสเชอร์ ร่วงลง 3.9% หลังรายงานผลกำไรครึ่งปีร่วงลง 29.5%
หุ้นฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อ ร่วงลง 17.6% หลังยืนยันว่าซีอีโอของบริษัทกำลังวางแผนที่จะลาออกจากตำแหน่ง