ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) แตะระดับปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษได้เปิดเผยแผนการปรับลดภาษี และแผนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายหุ้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า รัฐบาลอังกฤษจะต้องกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,018.60 จุด ร่วงลง 140.92 จุด หรือ -1.97%
ตลาดหุ้นอังกฤษปิดร่วงลงเกือบ 2% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. หลังร่วงลงในช่วงเช้ามากถึง 2.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
นายควาร์เต็งประกาศแผนเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันให้อังกฤษออกจากภาวะซบเซา และเข้าสู่ยุคใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ตลาดถูกกดดันจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวลงรุนแรงขึ้นในเดือนก.ย. เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและอุปสงค์ลดลง รวมถึงมีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษร่วงลงในเดือนก.ย.สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในช่วงกลางทศวรรษ 1970
หุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่ถ่วงตลาดลงมากที่สุด ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงหลังจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
หุ้นกลุ่มสร้างบ้าน ร่วงลง 1.3% โดยถูกกดดันจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะกระทบความสามารถของประชาชนในการซื้อบ้าน
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง อาทิ เบอเบอร์รี ร่วง 4.6% หลังเปิดเผยว่า จูลี บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินวางแผนที่จะลาออกจากตำแหน่งในเดือนเม.ย.ปีหน้า