ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวขึ้น หลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 21.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,481.93 จุด บวก 221.12 จุด หรือ 0.76%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 300 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย นอกจากนี้ ตลาดกังวลว่า การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ
การซื้อขายในวันนี้ได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก แสดงความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ
"เราได้ดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว โดยได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน และมีการพูดกันว่าเราจะปรับขึ้นต่อไปจนแตะ 4.25-4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ โดยเฟดไม่ได้เหลือเวลาสำหรับการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจในแต่ละเดือน" นายอีแวนส์กล่าวในรายการ "Squawk Box Europe" ของสำนักข่าว CNBC
นอกจากนี้ นายอีแวนส์กล่าวว่า เขายังคงมีความเชื่อมั่นอย่างระมัดระวังว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย หากไม่มีปัจจัยอื่นที่สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด
ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมวันนี้ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางฝรั่งเศส แต่ไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายพาวเวลเรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบควบคุมและสร้างความโปร่งใสต่อระบบการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (Decentralized finance) หรือ DeFi ซึ่งเป็นรูปแบบการเงินที่บริหารจัดการผ่านระบบบล็อกเชน แตกต่างจากการบริหารจัดการแบบดั้งเดิมที่มีธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเป็นผู้ดูแล
"ภายในระบบนิเวศทางธุรกิจของ DeFi เราพบว่ามีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความโปร่งใสและความไม่โปร่งใส ซึ่งเราจะต้องจับตาดูอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของสกุลเงินคริปโท และมีความจำเป็นอย่างแท้จริงในการออกกฎระเบียบที่เหมาะสมมากขึ้นในขณะที่ DeFi มีการขยายตัว และเริ่มเข้าสู่ลูกค้ารายย่อย" นายพาวเวลกล่าว
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลระบุว่า ปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบนิเวศทางธุรกิจของ DeFi และระบบธนาคารและระบบการเงินแบบดั้งเดิมยังคงไม่มากนักในขณะนี้ ทำให้ภาวะซบเซาของ DeFi ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารและระบบการเงินโดยรวม
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับ CBDC (สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง) ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส และการศึกษาในเรื่องการออก CBDC อาจจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐได้ชะลอตัวในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 15.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 18.1% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 18.7% ในเดือนมิ.ย.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองแทมปา ไมอามี และดัลลัส
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านชะลอตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง