ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากแผนการด้านเศรษฐกิจฉบับใหม่ของรัฐบาลอังกฤษนั้นยังคงกดดันตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษและค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,881.59 จุด ลดลง 123.80 จุด หรือ -1.77%
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคถ่วงตลาดลง และมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นลอนดอนจะปิดตลาดสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาปกป้องแผนงบประมาณใหม่ที่รวมถึงการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ แม้มูดี้ส์และกองทุนการเงินระหว่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์งบประมาณดังกล่าว และการเปิดเผยแผนงบประมาณนั้นได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดก็ตาม
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 7% แล้วในปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างก็ถูกกดดันในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น อาจจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ตลาดหุ้นลอนดอนยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลในวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) ที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพที่สูงขึ้น
สำหรับหุ้นรายตัวที่ร่วงลงนั้น อาทิ หุ้น Next ดิ่งลง 12.2% หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลกำไร ขณะที่หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ร่วงลง 3.6% หลังจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล