ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ แม้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการของจีนขยายตัวแบบไม่คาดคิดในเดือนก.ย. สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 25,979.75 จุด ร่วงลง 442.30 จุด หรือ -1.67%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 17,154.48 จุด ลดลง 11.39 จุด หรือ -0.07% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้า 3,034.85 จุด ลดลง 6.36 จุด หรือ -0.21%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี S&P500 แตะจุดต่ำสุดของปีนี้และปิดที่ระดับนิวโลว์ โดยปิดร่วง 2.1% แตะที่ 3,640.47 ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 458.13 จุด หรือ 1.54% แตะที่ 29,225.61 และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 2.84% แตะที่ 10,737.51
"ความเสี่ยงทางการเมืองและเงินเฟ้อยังไม่คลี่คลายลง โดยสินทรัพย์เสี่ยงเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง และต้นทุนการระดมทุนที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างแรงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง" นักวิเคราะห์ของเอเอ็นซี รีเสิร์ชกล่าวในวันนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยในวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการของจีนปรับตัวขึ้นแตะ 50.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 49.4 ในเดือนส.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 49.6
PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมธุรกิจ ขณะที่ PMI ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากผลสำรวจภาคเอกชนของไฉซิน/เอสแอนด์พีโกลบอล กลับหดตัวลงแตะ 48.1 ในเดือนก.ย.
"ภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอและความต้องการในการผลิตที่ลดน้อยลงทำให้บริษัทต่าง ๆ ลดกิจกรรมการจัดซื้อในเดือนก.ย. โดยลดลงเร็วที่สุดในรอบ 4 เดือน" ไฉซินระบุ