ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (3 ต.ค.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับอัตราการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 390.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.98 จุด หรือ +0.77%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,794.15 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,209.48 จุด เพิ่มขึ้น 95.12 จุด หรือ +0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,908.76 จุด เพิ่มขึ้น 14.95 จุด หรือ +0.22%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวก หลังฟื้นตัวจากการติดลบในช่วงเช้า ขณะที่ข้อมูลกิจกรรมการผลิตทั่วยูโรโซนลดลงอีกในเดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตค่าครองชีพและค่าพลังงานที่พุ่งขึ้น
หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งพุ่งขึ้น 3.1% โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน เนื่องจากมีแนวโน้มที่กลุ่มโอเปกพลัสจะปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธนี้ (5 ต.ค.)
หุ้นคุณค่า อาทิ กลุ่มเทเลคอม และกลุ่มสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 2.4% และ 2.3% ตามลำดับ
แต่หุ้นเครดิต สวิส ร่วงลงเกือบ 1% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาก่อนธนาคารประกาศแผนปรับโครงสร้างในวันที่ 27 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงเกือบ 20% แล้วในปีนี้ เนื่องจากยุโรปเผชิญกับวิกฤตพลังงานที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และสัญญาณการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง