ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 2 รอบการซื้อขายก่อนหน้า โดยหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นหลังกลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดการผลิตน้ำมัน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,370.37 จุด เพิ่มขึ้น 249.84 จุด หรือ +0.92% ขณะที่ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 18,010.18 จุด ลดลง 77.79 จุด หรือ -0.43%
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 3 - 7 ต.ค. เนื่องในวันชาติ
หุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในวันพุธ (5 ต.ค.) หลังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 2 รอบการซื้อขายก่อนหน้า โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 42.45 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 30,273.87 จุด หลังร่วงเกือบ 430 จุดในช่วงแรกของวัน ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง 0.2% ปิดที่ 3,783.28 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 0.25% แตะที่ 11,148.64 จุด
ขณะนี้ นักลงทุนจับตารายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรของสำนักงานสถิติแรงงานในวันศุกร์
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.7 ในเดือนก.ย. จากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคบริการปรับตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56.0
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของการจ้างงาน แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่ชะลอตัว โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้เสร็จสิ้นการประชุมแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. โดยการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว เป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของโอเปกพลัสนับตั้งแต่ปี 2563 และเป็นการปรับลดกำลังการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2