ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียทำการโจมตียูเครน และความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 19.22 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 32 จุด หรือ 0.1% สู่ระดับ 29,321 จุด
คาดว่าการซื้อขายจะเบาบางในวันนี้ ขณะที่ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวันโคลัมบัส
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุดในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกแถลงการณ์ประณามรัสเซีย หลังทำการยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนหลายจุดทั่วประเทศยูเครน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
นอกจากนี้ คาดว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลประกอบการจะชะลอตัวในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์
ข้อมูลจาก Refinitiv data ระบุว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นเพียง 4.1% ในไตรมาส 3 โดยลดลงจากระดับ 11.1% ที่มีการคาดการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด